ต้นไม้หวงห้าม
ต้นไม้หวงห้าม

ต้นไม้หวงห้าม ไม้หายากที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้

ต้นไม้หวงห้าม คือ ต้นไม้ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ ทางวิชาการ หรือทางสิ่งแวดล้อมสูง และมีแนวโน้มที่จะสูญพันธุ์หรือถูกตัดทำลายได้ง่าย กฎหมายกำหนดให้ไม้เหล่านี้ต้องได้รับการคุ้มครองไม่ให้ถูกตัดหรือทำลายโดยพลการ เพื่อป้องกันไม่ให้ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศถูกทำลาย การอนุญาตให้ตัดไม้หวงห้าม จะต้องได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ โดยการพิจารณาอนุญาตจะพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ชนิดของไม้ ปริมาณไม้ที่ต้องการตัด วัตถุประสงค์ในการตัดไม้ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม้หวงห้ามในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

ไม้หวงห้ามประเภท ก ได้แก่ ไม้ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจสูง เช่น ไม้สัก ไม้พะยูง ไม้ชิงชัน ไม้ยาง ไม้แดง เป็นต้น ไม้เหล่านี้มีเนื้อไม้แข็ง ทนทาน สวยงาม และมีค่านิยมสูง มักนิยมนำมาใช้ในงานก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องเรือน เครื่องดนตรี และเครื่องประดับ

ไม้หวงห้ามประเภท ข ได้แก่ ไม้ที่มีคุณค่าทางวิชาการหรือทางสิ่งแวดล้อมสูง เช่น ไม้กฤษณา ไม้หอม ไม้จันทน์ ไม้มะเกลือ ไม้พยุง เป็นต้น ไม้เหล่านี้มีสรรพคุณทางยาหรือสมุนไพร สามารถนำมาใช้ทำเครื่องหอม น้ำมันหอมระเหย หรือผลิตภัณฑ์ทางเคมีได้ นอกจากนี้ ไม้เหล่านี้ยังมีความสำคัญต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม เช่น เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า หรือช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์

เหตุผลที่ต้นไม้หวงห้ามควรได้รับการอนุรักษ์

  • ด้านเศรษฐกิจ ไม้หวงห้ามมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง ไม้สักเป็น ต้นไม้ ที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์ ไม้พะยูงเป็นไม้ที่มีค่านิยมสูง มักนิยมนำมาใช้ทำเครื่องเรือน เครื่องดนตรี และเครื่องประดับ ไม้ชิงชันเป็นไม้ที่มีกลิ่นหอม มักนิยมนำมาทำเครื่องหอมและน้ำมันหอมระเหย
  • ด้านวิชาการ ไม้หวงห้ามบางชนิดมีสรรพคุณทางยาหรือสมุนไพร สามารถนำมาใช้รักษาโรคได้ เช่น ไม้กฤษณามีสรรพคุณแก้ปวด แก้อักเสบ ไม้หอมมีสรรพคุณบำรุงร่างกาย ไม้จันทน์มีสรรพคุณแก้ลม แก้หวัด
  • ด้านสิ่งแวดล้อม ไม้หวงห้ามมีความสำคัญต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม เช่น เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า หรือช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ไม้สักเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มักขึ้นเป็นป่าไม้ใหญ่ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ไม้พะยูงเป็นไม้ที่ขึ้นอยู่ตามป่าดิบชื้น มีความสำคัญในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์

โทษของการตัดและการครอบครองต้นไม้หวงห้าม

การตัดไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่าของประเทศ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจของประเทศ ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายจึงต้องได้รับโทษตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด สำหรับกรณีของไม้หวงห้ามที่ปลูกอยู่ในที่ดินกรรมสิทธิ์หรือที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ทำประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิ เจ้าของที่ดินสามารถตัดไม้หวงห้ามได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่ต้องแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อขอหนังสือรับรองไม้ โดยสามารถแจ้งได้ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด หรือสำนักงานป่าไม้จังหวัด สำหรับโทษในการตัดไม้หวงห้ามนั่นก็คือ ผู้ใดตัดไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 50,000 บาทถึง 2,000,000 บาท ผู้ใดครอบครองไม้หวงห้ามที่ได้มาจากการกระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 25,000 บาทถึง 500,000 บาท

แนวทางการอนุรักษ์ไม้หวงห้าม

การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เจ้าหน้าที่รัฐควรเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการตัดไม้หวงห้าม เพื่อป้องกันไม่ให้มีการตัดไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต การปลูกทดแทน กรมป่าไม้ควรส่งเสริมให้มีการปลูกทดแทนไม้หวงห้ามที่ตัดทำลายไปแล้ว เพื่อสร้างป่าไม้ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ การมีส่วนร่วมของประชาชน ประชาชนควรมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ไม้หวงห้าม โดยการปลูกต้นไม้หวงห้าม รณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันอนุรักษ์ไม้หวงห้าม และแจ้งเบาะแสการลักลอบตัดไม้หวงห้าม

#ต้นไม้หวงห้าม #ไม้หวงห้าม

เรื่องที่น่าสนใจเพิ่มเติม : ต้นไม้เศรษฐกิจ